1. Double click ที่ My computer
2. เลือกเข้าไปที่ C:
3. เลือกเข้าไปที่ C:\Karacafe
4. Double click ที่ Karacafe.EXE
5. จะปรากฎหน้าจอดังรูปที่ 1

รูปที่ 1

1. พิมพ์ ชื่อเพลง หรือ ชื่อนักร้อง หรือ รหัสเพลง ที่ต้องการค้นหา
2. โปรแกรมจะแสดงรายชื่อเพลงที่ตรงกับคำที่ต้องการหา หรือใกล้เคียง
3. กดปุ่มลูกศร ขึ้น ลง เพื่อเลือกรายการเพลงที่ต้องการ
4. กดปุ่ม Enter เพื่อเพิ่มเติมรายการเพลงเข้าสู่คิวรายการเพลง
5. กดปุ่ม Esc เพื่อปิดหน้าต่าง

1. กด F2 เพื่อแสดงรายการเพลงในคิว
2. กดปุ่มลูกศร ขึ้น ลง เพื่อเลือกรายการเพลงในคิว
3. กดปุ่ม Enter เพื่อเล่นเพลงที่เลือก
4. กดปุ่ม Esc เผื่อปิดหน้า

1. กด Ctrl+F9 จะปรากฎหน้าจอดังภาพ
2. เลือกไฟล์เพลงที่ต้องการเพิ่มเติม
3. กดปุ่ม Open เพื่อเพิ่มรายการเพลง
4. ระบุข้อมูลเพลงที่ทำการเพิ่มเติม (รหัสเพลง, ชื่อเพลง, ชื่อนักร้อง และชื่อผู้แต่ง)
5. กดปุ่ม OK เพื่อเพิ่มรายการเพลง

1. ทำการค้นหาเพลงจากหน้าจอโปรแกรม
2. เลือกรายชื่อเพลงที่ต้องการลบ
3. กด Ctrl + Del
4. กดปุ่ม OK เพื่อยืนยันการลบเพลง

1. แถบ “คาราโอเกะ”
   1. “การ์ดเสียง” จะเป็นการระบุให้เสียงออกที่การด์เสียงชุดไหน (ใช้ในกรณีที่มีการ์ดเสียงหลายชุด)
   2. ฉากหลัง ใช้กำหนดรูปแบบของฉากหลังว่าจะให้เป็นแบบใด (สีพื้น, ภาพนิ่ง หรือ ภาพยนต์)
   3. “ตัวอักษร” จะเป็นการกำหนดสีของตัวอักษรที่แสดงในส่วนของเนื้อร้อง (กำหนดเฉพาะในส่วน Midi)
   4. “เวลาในการแสดงภาพนิ่ง” ใช้กำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนภาพฉากหลังที่เป็นภาพนิ่ง
   
   
   
   
2. แถบ “ภาพนิ่ง” (ใช้ระบุภาพนิ่งที่ต้องการแสดงเป็นฉากหลัง)
   1. กดปุ่ม “เพิ่ม” เลือกไฟล์รูปภาพที่ต้องการให้เป็นฉากหลัง, กดปุ่ม “Open” หลังจากนั้นจะปรากฎรายชื่อไฟล์ในรายการภาพนิ่ง
   2. กดปุ่ม “ลบ” หลังจากทำการเลือกรายการภาพนิ่งที่ต้องการลบ เพื่อนำไฟล์ภาพนิ่งออกจากรายการภาพนิ่ง
   
   
   
   
3. แถบ “ภาพยนต์” (ใช้ระบุไฟล์ภาพยนต์ที่ต้องการแสดงเป็นฉากหลัง)
   1. กดปุ่ม “เพิ่ม” เลือกไฟล์ภาพยนต์ที่ต้องการให้เป็นฉากหลัง กดปุ่ม “Open” หลังจากนั้นจะปรากฎรายชื่อไฟล์ในรายการภาพยนต์
   2. กดปุ่ม “ลบ” หลังจากทำการเลือกรายการภาพยนต์ที่ต้องการลบ เพื่อนำไฟล์ภาพยนต์ ออกจากรายการภาพยนต์
   
   

1. “Master Volume”
   1. “L” ใช้กำหนดความดังของเสียงที่ออกลำโพงด้านซ้าย
   2. “R” ใช้กำหนดความดังของเสียงที่ออกลำโพงด้านขวา
   3. “Mute” ใช้สำหรับการปิดเสียง
   4. “Vol”ใช้ในการกำหนดความดังของเสียง
2. “Treble” ใช้กำหนดความดังของเสียง Trable
3. “Bass” ใช้กำหนดความดังของเสียง Bass
4. “Movie Volume” ใช้กำหนดความดังของเสียง Movie ที่ใช้เป็นฉากหลัง
5. “Midi Volume” ใช้กำหนดความดังของเสียงในระบบ Midi
   1. “L” ใช้กำหนดความดังของเสียงที่ออกลำโพงด้านซ้าย
   2. “R” ใช้กำหนดความดังของเสียงที่ออกลำโพงด้านขวา
   3. “Mute” ใช้ปิดเสียง
   4. “Vol” ใช้ในการกำหนดความดังของเสียง
   5. “Mute CH1” – “Mute CH16” ใช้ในการเปิดปิด เสียง Channel ต่างๆ ในระบบ Midi สามารถควบคุมได้ทั้งหมด 16 Channel
   
   

Back To Home